วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

สมชัย เจริญวรเกียรติ: การสร้างที่ทำงานที่พนักงานสามารถเข้ามาทำงานวันหยุดได้

การพัฒนาองค์กร “เรื่องแค่นี้ทำได้....แล้วทำไม....ไม่ทำ” เรื่องที่ 1

การสร้างที่ทำงานที่พนักงานสามารถเข้ามาทำงานวันหยุดได้

โดยนายสมชัย เจริญวรเกียรติ somchai48@gmail.com 8 พฤษภาคม 2555

เรื่องที่ 1 การสร้างที่ทำงานที่พนักงานสามารถเข้ามาทำงานวันหยุดได้
จากสภาพการทำงานในปัจจุบัน พบว่าปริมาณงานที่มากของบางหน่วยงานทำให้พนักงานบางคนมีงานมากและทำไม่ทันในเวลาปกติ
ต้องยอมรับว่ามีพนักงานหลาย ๆ คน พยายามทำงานนั้นแล้ว แต่ก็ทำไม่ทันจริง ๆ วิธีแก้ไขปัญหาที่พบบ่อย ๆ ที่ทำกันอยู่ก็ คือ
1.ทำงานหลังเวลาเลิกงาน จากเคยเลิกงาน 6 โมงเย็น ก็กลายเป็น สองทุ่ม สามทุ่ม เพื่อให้งานที่มากมายลดปริมาณลง บางบริษัทอาจช่วยเหลือพนักงานด้วยการให้ค่า โอเวอร์ไทม์ แต่หลาย ๆ ที่กลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ถือว่าพนักงานทำงานไม่เสร็จเอง ในเวลาปกติ และเป็นความรับผิดชอบของพนักงานที่ต้องทำงานให้เสร็จตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ไม่เห็นต้องจ่ายเงินเพิ่มเลย ลำพังให้เงินเดือน อย่างเดียวก็น่าจะพอใจ
แต่ไม่เป็นเช่นนั้น โดยทั่วไปพนักงานไม่อยากทำงานตอนค่ำหรอก บางคนมีครอบครัวที่ต้องกลับไปดูแล เงิน โอเวอร์ไทม์เล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่เกิน 150 แต่ต้องทำงาน2 ชั่วโมง ตอนเย็นๆ เลิกเกือบ 2-3ทุ่ม หากหักกลบลบค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ที่อาจต้องเพิ่มขึ้น เช่นบางคนต้องกลับด้วย รถแท็กซี่ เพราะ รถเมล์ หมด หรือ อาจต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายการเดินทางให้ปลอดภัย ยิ่งขึ้น ก็หมดแล้ว ไอ้ 150 บาท ที่ได้มา
หลังเวลาเลิกงานปกติ แอร์ก็จะปิด ไปด้วยอัตโนมัติ อากาศภายในสำนักงานก็จะร้อนขึ้น และ การถ่ายเทของอากาศก็จะไม่ดี หายใจไม่ค่อยสะดวก ไม่มีใครชอบที่จะทำงานในที่ที่มีอากาศร้อนหรอก พนักงานจึงต้องหาพัดลมมาใช้เพื่อบรรเทาความร้อน ในระหว่างที่ทำงาน และนี่ก็เป็นเหตุให้ใต้โต๊ะ ทำงานของพนักงานหลาย ๆ คนถูกใช้เป็นที่เก็บพัดลม และเป็นปัญหาเรื่องความเรียบร้อยสวยงามของ ออฟฟิค ไม่สามารถ ทำ 5 .ได้ตามที่ต้องการ ข้าวของก็จะเลอะเทอะอยู่ใต้โต๊ะพนักงาน จากวันเป็นเดือน เป็นปี รอทำ 5 . อีกครั้ง
มีหลายครั้งหากตรวจสอบดี ๆ จะพบว่า ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เมื่อพนักงานทำงานหลังเลิกงานปกติก็คือ ค่าโทรศัพท์ เพราะจะมีคนโทรเข้ามาถามพนักงานเรื่อย ๆ ส่วนพนักงานเองก็จะโทรไปหาเพื่อน หาครอบครัว และจะเน้นการคุยโทรศัพท์ มากกว่าการทำงาน และจะใช้เวลาไปหาของทานอีกราว 30 นาที สรุปว่า ไม่ค่อยได้งานเท่าไหร่
2.มาทำงานเช้าขึ้น ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ หากบริษัทใดมีพนักงานมาทำงานแต่เช้า จำนวนมาก บริษัทนั้นก็จะประสบความสำเร็จเร็วขึ้น แต่พบว่าพนักงานที่มาแต่เช้า ส่วนใหญ่จะรีบตอกบัตร หรือลงเวลาทำงานก่อน แสดงให้เห็นว่ามาแต่เช้า แต่ไม่เริ่มงานทันทีหรอก เพราะสำนักงานยังไม่เปิดแอร์ อากาศในสำนักงานยังร้อนอยู่ จึงใช้เวลาส่วนใหญ่หาข้าวเช้าทานกัน รอจนใกล้เวลาเข้างานก็จะทยอยเดินเข้าสำนักงานเพื่อทำงานตามปกติ บางคนมาแต่เช้า เพื่อเลี่ยงรถติด คนพวกนี้ในบัตรเข้าเวลาจะโชว์ว่ามาถึงสำนักงานแต่เช้า แต่ในความเป็นจริงเป็นพวกไร้ค่า จริง ๆ พวกนี้เลี้ยงเสียข้าวสุก สำหรับคนที่มาถึงสำนักงานแต่เช้าและทำงานทันที พวกนี้จะมีอยู่บ้าง ต้องหาให้เจอ วิธีง่าย ๆ ที่จะตรวจสอบ ก็เพียงแต่ เช็คว่าเริ่มเปิดคอมใช้เมื่อไหร่ และ เข้าโปรแกรมทำงานจำพวก Microsoft Window หรือเปล่า หรือเป็นหนุ่มสาวนักเที่ยว ที่ท่องอินเตอร์เน็ต เพื่อฆ่าเวลา ก่อนเข้างาน พวกนี้ไร้สาระ หาคนที่มาถึง แล้วเริ่มงานทันที หาคนเหล่านี้ให้เจอ เลี้ยงเขาดี ๆ นี่คือขุมกำลังสำคัญที่จะสร้างงานให้บริษัทของคุณ
3.มาทำงานวันเสาร์ วันอาทิตย์ พนักงานส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยากมาทำหรอก แอร์ก็ไม่มี ร้อนก็ร้อน ของกินก็หากินยาก บางคนบ้านอยู่ต่างจังหวัดอยากกลับบ้านไปหาลูกเมีย หลายคนอยากอยู่กับครอบครับมากกว่า จริง ๆ แล้วไม่อยากมาทำงานหรอกก คนที่อยากมาทำงานวันเสาร์ วันอาทิตย์ ส่วนใหญ่เป็นคนโสด หรือคนที่ไม่ค่อยมีเพื่อน เข้าสังคมได้ไม่ดี ไม่มีกิจกรรมทำวันหยุด และคนพวกนี้มักจะเป็นกลุ่มคนแปลก ๆ และส่วนใหญ่มาทำงานที่ค้างเล็กน้อย แต่ใช้เวลาในการเล่น Game ท่อง Web เล่น Net เสียมากกว่า แต่ก็จะมีคนบางส่วนที่อยากจะเข้ามาทำงานจริง ๆ คนพวกนี้แหละที่เป็นกำลังเสริม จริง ๆ ของบริษัทที่จะสร้างงาน และสร้างความสำเร็จให้บริษัทในอนาคต

จากความจริงทิ่เกิด เรื่องที่น่าจะทำ และต้องทำ คือ สร้างห้องทำงานขึ้นมาเลยหนึ่งห้องที่พนักงานสามารถเข้ามาทำงานได้ ทั้งหลังเลิกงาน และสามารถมาทำงานได้วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุด

จุดประสงค์ของโครงการ
1.เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พนักงานที่ต้องทำงาน นอกเหนือจากเวลาทำงานปกติ
2.ได้งานเพิ่มขึ้นและเป็นงานที่ทำด้วยความยินดี และได้งานที่มีคุณภาพ

ลักษณะของห้อง และอุปกรณ์ที่ต้องมี
1.ขนาดของห้อง 4.0 x 4.0 เมตร 16 – 20 ตารางเมตร จะมาก หรือน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม เน้นให้เป็นกระจกอย่างน้อย 2 ด้านเพื่อให้เห็นการทำงาน และเพื่อความปลอดภัยของผู้ทำงาน
2.ต้องมีแอร์แยกเฉพาะ ขนาด 12,000 BTU เพื่อใช้งาน ในเวลาที่แอร์รวมของอาคารหยุดทำงาน และควรมีท่อแอร์รวมของอาคาร เมื่อใช้งานตามปรกติ จากการคำนวน ค่าใช้จ่ายเเอร์ ที่เกิดจากค่าไฟฟ้า ชั่วโมงละ 2.53 บาท
3.คอมพิวเตอร์ 2 ชุด หากเป็นไปได้ควรเป็น Note Book เพราะใช้ง่ายสะดวกไม่เปลืองพื้นที่ ไม่มีสายมากมายทำให้ห้องดูรกรุงรัง และประหยัดค่าไฟฟ้า จากการใช้งาน
4โต๊ะทำงาน 2 ตัว ขนาด 1.80 เมตร ลึก 0.60 เมตร เพื่อไว้ว่าอาจจะมีคนมาทำงานมากกว่า 1 คน และมีพื้นที่ใช้งานพอสมควร
5.เก้าอี้ทำงาน 4 ตัว มีโซฟา 3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง 1 ชุด
6.ระบบ Lan ควรมี 3 port เพื่อว่าพนักงานจะได้สามารถเข้ามาต่อเชื่อมทำงานได้ทันที และถ้าหากองค์กรมี wireless network ก็สามารถทำงานได้ทันที
7.มีทีวี หนึ่งเครื่อง สามารถตั้งระบบปิดเปิดได้ เพื่อให้พนักงานใช้เป็นห้องพักผ่อนได้ด้วย
8.ติดตั้งระบบประตูที่ใช้การด์ล็อค และเชื่อมต่อกับระบบการเข้างานปกติ สามารถเช็คคนเข้าออกได้
9.ติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อให้ทราบว่าใครเข้ามาทำงานบ้าง โดยติดอยู่ด้านประตูทางเข้า ให้เห็นทั้งห้อง และสามารถเห็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ของผู้เข้ามาใช้ทำงาน เพื่อเตือนเรื่องการเข้าWeb ที่ไม่เหมาะสม และการทำงานที่เกี่ยวกับข้อมูลเฉพาะของบริษัท (หากมีระบบ Lanก็สามารถทราบได้ว่า มีการใช้คอมพิวเตอร์ โปรแกรม ต่าง ๆในเวลาใด) สำหรับ CCTV อาจไม่จำเป็นต้องมีก็ได้
10.ตู้น้ำร้อน น้ำเย็น 1 ตู้ พร้อมแก้วน้ำ 4 ใบ เพื่ออำนวยความสะดวกให้พนักงาน และ การติดตั้งปลั๊กไฟ เพื่อให้ตู้น้ำเย็นเสียใช้งาน ควรอยู่ระดับสายตา ที่ความสูง 1.50 เมตร และมีข้อความ ถอดปลั๊กทุกครั้งเมื่อเลิกใช้ เพื่อความปลอดภัย และประหยัดค่าไฟฟ้า




งบประมาณการลงทุน
1.ค่าปรับปรุงห้อง ทาสีใหม่ เดินระบบไฟฟ้า ระบบLan โทรศัพท์ 50,000 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
2.คอมพิวเตอร์ 2 ชุด 40,000บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
3.แอร์ 12,000 BTU 15,000 บาท ค่าติดตั้ง 5,000 บาท 20,000 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
4.โต๊ะทำงาน 1.80 x 0.60 เมตร 2 ตัว ราคา 1,800 บาท/ตัว 3,600 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
5.เก้าอี้ 4 ตัว ราคา 1,200 บาท / ตัว 4,800 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
6. TV 1 เครื่อง 7,000 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
7.ระบบประตูใช้การด์ 8,000 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
8.Sofa พร้อมโต๊ะกลาง 1 ชุด 3,500 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
9.ตู้น้ำร้อน น้ำเย็น พร้อมแก้วน้ำ 4 ใบ 5,300 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
10.โทรศัพท์ 1 เครื่อง 500 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
รวมค่าใช้จ่าย 185,900 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)

ค่าใช้จ่ายต่อเดือน จาก 10 รายการข้างต้น 3,098 บาท/เดือน
ค่าไฟฟ้าต่อเดือน ประมาณ 20 ชั่วโมง แอร์ 50 .
ส่องสว่าง 15 บาท คอม 10 บาท
ตู้ทำน้ำร้อน เย็น 14 บาท
ค่าไฟฟ้า ประมาณการ 89 บาท/เดือน
รวมค่าใช้จ่ายที่ลงทุน ต่อเดือน (ไม่รวมระบบ CCTV) 3,187 บาท /เดือน
ประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับ
1.งานที่ค้างจะได้รับการ ปรับปรุงให้แล้วเสร็จ ปริมาณงานที่ได้จะได้เพิ่มขึ้น
2.จากรายชื่อพนักงานที่มาทำงานในห้องนี้ จะสามารถทำให้ผู้บริหารทราบได้ว่า งานในฟังก์ชั่นใด มีมากจนพนักงานทำไม่ไหว เพื่อปรับแผนงานหรือกระบวนการทำงานให้เหมาะสม เช่น เพิ่มคน เพิ่มอุปกรณ์ที่จะทำให้ทำงานเร็วขึ้น หรือ ปรับปรุงขบวนการทำงานใหม่ ๆ
3.ห้องนี้สามารถใช้เป็น
-ในเวลาปกติ เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีที่นั่งประจำ สามารถเข้ามาทำงานได้
- จะใช้เป็นห้องรับรองแขกชั่วคราวได้
-ใช้เป็นห้องประชุมย่อยก็ได้
-ใช้เป็นห้องทานข้าวกลางวันพนักงาน พร้อม พักผ่อนดูข่าว ดูทีวี ในเวลาเช้า กลางวัน เย็น หรือข่าวสำคัญ
- ใช้เป็นห้องทำงาน เบื้องต้น สำหรับพนักงานที่มาทำงานแต่เช้า ก่อน แอร์ของอาคารจะทำงาน เพราะทำงานได้ทันที
- ใช้เป็นห้องสัมภาษณ์งาน ทดสอบการใช้คอมพิวเตอร์ ของพนักงานที่มาสมัครงานใหม่
4.ผลพลอยได้ จากคนที่เข้ามาใช้งานในห้องนี้ จะทำให้ทราบว่า พนักงานคนใดมีความรับผิดชอบต่องานสูง
หรือ พนักงานคนใดมีพฤติกรรมอย่างไร หากเป็นพนักงานที่ดี ็เป็นโอกาสที่จะได้ส่งเสริมให้ก้าวหน้า ส่วนคนที่มาใช้ห้องแล้ว ไม่เหมาะสมทั้งการทำงาน และพฤติกรรม ก็เป็นช่องทางที่จะเชิญพนักงานท่านนั้นออกจากบริษัทไป
5.โดยทั่วไปมักจะได้ข้ออ้างจากพนักงานว่างานมากทำไม่ค่อยทัน แต่เมื่อมีห้องนี้แล้ว พนักงานจะไม่มีข้ออ้าง เรื่องนี้เลย และประสิทธิภาพ และปริมาณของงานที่ได้จะมีมากขึ้นด้วย
6.พนักงานที่ชอบทำงาน ก็จะได้มีทีทำงาน ตอนเย็น วันเสาร์ - วันอาทิตย์ วันหยุด บริษัทก็จะได้งานเพิ่มขึ้น
หรือพนักงานที่ไม่มีคอมพิวเตอร์ที่บ้าน ก็สามารถมาทำงานในห้องนี้ได้
สิ่งที่ต้องคำนึงถึง
1.ถ้าทำได้ ห้องนี้ควรอยู่ด้านล่าง สามารถเข้าทำงานได้ง่าย โดยไม่ผ่านห้องอื่น
2.ถ้าทำได้ ห้องนี้ควรอยู่ใกล้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพื่อสามารถเข้า ตรวจสอบได้ง่าย และเพื่อความปลอดของพนักงานที่เข้ามาทำงาน
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์
หากต้องการความช่วยเหลือ หรือแนวคิดใหม่ ๆ ในการจัดการ บริหารองค์กร
ติดต่อ somchai48@gmail.com

สมชัย เจริญวรเกียรติ: การสร้างที่ทำงานที่พนักงานสามารถเข้ามาทำงานวันหยุดได้

การพัฒนาองค์กร “เรื่องแค่นี้ทำได้....แล้วทำไม....ไม่ทำ” เรื่องที่ 1

การสร้างที่ทำงานที่พนักงานสามารถเข้ามาทำงานวันหยุดได้

โดยนายสมชัย เจริญวรเกียรติ somchai48@gmail.com 8 พฤษภาคม 2555

เรื่องที่ 1 การสร้างที่ทำงานที่พนักงานสามารถเข้ามาทำงานวันหยุดได้
จากสภาพการทำงานในปัจจุบัน พบว่าปริมาณงานที่มากของบางหน่วยงานทำให้พนักงานบางคนมีงานมากและทำไม่ทันในเวลาปกติ
ต้องยอมรับว่ามีพนักงานหลาย ๆ คน พยายามทำงานนั้นแล้ว แต่ก็ทำไม่ทันจริง ๆ วิธีแก้ไขปัญหาที่พบบ่อย ๆ ที่ทำกันอยู่ก็ คือ
1.ทำงานหลังเวลาเลิกงาน จากเคยเลิกงาน 6 โมงเย็น ก็กลายเป็น สองทุ่ม สามทุ่ม เพื่อให้งานที่มากมายลดปริมาณลง บางบริษัทอาจช่วยเหลือพนักงานด้วยการให้ค่า โอเวอร์ไทม์ แต่หลาย ๆ ที่กลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ถือว่าพนักงานทำงานไม่เสร็จเอง ในเวลาปกติ และเป็นความรับผิดชอบของพนักงานที่ต้องทำงานให้เสร็จตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ไม่เห็นต้องจ่ายเงินเพิ่มเลย ลำพังให้เงินเดือน อย่างเดียวก็น่าจะพอใจ
แต่ไม่เป็นเช่นนั้น โดยทั่วไปพนักงานไม่อยากทำงานตอนค่ำหรอก บางคนมีครอบครัวที่ต้องกลับไปดูแล เงิน โอเวอร์ไทม์เล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่เกิน 150 แต่ต้องทำงาน2 ชั่วโมง ตอนเย็นๆ เลิกเกือบ 2-3ทุ่ม หากหักกลบลบค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ที่อาจต้องเพิ่มขึ้น เช่นบางคนต้องกลับด้วย รถแท็กซี่ เพราะ รถเมล์ หมด หรือ อาจต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายการเดินทางให้ปลอดภัย ยิ่งขึ้น ก็หมดแล้ว ไอ้ 150 บาท ที่ได้มา
หลังเวลาเลิกงานปกติ แอร์ก็จะปิด ไปด้วยอัตโนมัติ อากาศภายในสำนักงานก็จะร้อนขึ้น และ การถ่ายเทของอากาศก็จะไม่ดี หายใจไม่ค่อยสะดวก ไม่มีใครชอบที่จะทำงานในที่ที่มีอากาศร้อนหรอก พนักงานจึงต้องหาพัดลมมาใช้เพื่อบรรเทาความร้อน ในระหว่างที่ทำงาน และนี่ก็เป็นเหตุให้ใต้โต๊ะ ทำงานของพนักงานหลาย ๆ คนถูกใช้เป็นที่เก็บพัดลม และเป็นปัญหาเรื่องความเรียบร้อยสวยงามของ ออฟฟิค ไม่สามารถ ทำ 5 .ได้ตามที่ต้องการ ข้าวของก็จะเลอะเทอะอยู่ใต้โต๊ะพนักงาน จากวันเป็นเดือน เป็นปี รอทำ 5 . อีกครั้ง
มีหลายครั้งหากตรวจสอบดี ๆ จะพบว่า ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เมื่อพนักงานทำงานหลังเลิกงานปกติก็คือ ค่าโทรศัพท์ เพราะจะมีคนโทรเข้ามาถามพนักงานเรื่อย ๆ ส่วนพนักงานเองก็จะโทรไปหาเพื่อน หาครอบครัว และจะเน้นการคุยโทรศัพท์ มากกว่าการทำงาน และจะใช้เวลาไปหาของทานอีกราว 30 นาที สรุปว่า ไม่ค่อยได้งานเท่าไหร่
2.มาทำงานเช้าขึ้น ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ หากบริษัทใดมีพนักงานมาทำงานแต่เช้า จำนวนมาก บริษัทนั้นก็จะประสบความสำเร็จเร็วขึ้น แต่พบว่าพนักงานที่มาแต่เช้า ส่วนใหญ่จะรีบตอกบัตร หรือลงเวลาทำงานก่อน แสดงให้เห็นว่ามาแต่เช้า แต่ไม่เริ่มงานทันทีหรอก เพราะสำนักงานยังไม่เปิดแอร์ อากาศในสำนักงานยังร้อนอยู่ จึงใช้เวลาส่วนใหญ่หาข้าวเช้าทานกัน รอจนใกล้เวลาเข้างานก็จะทยอยเดินเข้าสำนักงานเพื่อทำงานตามปกติ บางคนมาแต่เช้า เพื่อเลี่ยงรถติด คนพวกนี้ในบัตรเข้าเวลาจะโชว์ว่ามาถึงสำนักงานแต่เช้า แต่ในความเป็นจริงเป็นพวกไร้ค่า จริง ๆ พวกนี้เลี้ยงเสียข้าวสุก สำหรับคนที่มาถึงสำนักงานแต่เช้าและทำงานทันที พวกนี้จะมีอยู่บ้าง ต้องหาให้เจอ วิธีง่าย ๆ ที่จะตรวจสอบ ก็เพียงแต่ เช็คว่าเริ่มเปิดคอมใช้เมื่อไหร่ และ เข้าโปรแกรมทำงานจำพวก Microsoft Window หรือเปล่า หรือเป็นหนุ่มสาวนักเที่ยว ที่ท่องอินเตอร์เน็ต เพื่อฆ่าเวลา ก่อนเข้างาน พวกนี้ไร้สาระ หาคนที่มาถึง แล้วเริ่มงานทันที หาคนเหล่านี้ให้เจอ เลี้ยงเขาดี ๆ นี่คือขุมกำลังสำคัญที่จะสร้างงานให้บริษัทของคุณ
3.มาทำงานวันเสาร์ วันอาทิตย์ พนักงานส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยากมาทำหรอก แอร์ก็ไม่มี ร้อนก็ร้อน ของกินก็หากินยาก บางคนบ้านอยู่ต่างจังหวัดอยากกลับบ้านไปหาลูกเมีย หลายคนอยากอยู่กับครอบครับมากกว่า จริง ๆ แล้วไม่อยากมาทำงานหรอกก คนที่อยากมาทำงานวันเสาร์ วันอาทิตย์ ส่วนใหญ่เป็นคนโสด หรือคนที่ไม่ค่อยมีเพื่อน เข้าสังคมได้ไม่ดี ไม่มีกิจกรรมทำวันหยุด และคนพวกนี้มักจะเป็นกลุ่มคนแปลก ๆ และส่วนใหญ่มาทำงานที่ค้างเล็กน้อย แต่ใช้เวลาในการเล่น Game ท่อง Web เล่น Net เสียมากกว่า แต่ก็จะมีคนบางส่วนที่อยากจะเข้ามาทำงานจริง ๆ คนพวกนี้แหละที่เป็นกำลังเสริม จริง ๆ ของบริษัทที่จะสร้างงาน และสร้างความสำเร็จให้บริษัทในอนาคต

จากความจริงทิ่เกิด เรื่องที่น่าจะทำ และต้องทำ คือ สร้างห้องทำงานขึ้นมาเลยหนึ่งห้องที่พนักงานสามารถเข้ามาทำงานได้ ทั้งหลังเลิกงาน และสามารถมาทำงานได้วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุด

จุดประสงค์ของโครงการ
1.เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พนักงานที่ต้องทำงาน นอกเหนือจากเวลาทำงานปกติ
2.ได้งานเพิ่มขึ้นและเป็นงานที่ทำด้วยความยินดี และได้งานที่มีคุณภาพ

ลักษณะของห้อง และอุปกรณ์ที่ต้องมี
1.ขนาดของห้อง 4.0 x 4.0 เมตร 16 – 20 ตารางเมตร จะมาก หรือน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม เน้นให้เป็นกระจกอย่างน้อย 2 ด้านเพื่อให้เห็นการทำงาน และเพื่อความปลอดภัยของผู้ทำงาน
2.ต้องมีแอร์แยกเฉพาะ ขนาด 12,000 BTU เพื่อใช้งาน ในเวลาที่แอร์รวมของอาคารหยุดทำงาน และควรมีท่อแอร์รวมของอาคาร เมื่อใช้งานตามปรกติ จากการคำนวน ค่าใช้จ่ายเเอร์ ที่เกิดจากค่าไฟฟ้า ชั่วโมงละ 2.53 บาท
3.คอมพิวเตอร์ 2 ชุด หากเป็นไปได้ควรเป็น Note Book เพราะใช้ง่ายสะดวกไม่เปลืองพื้นที่ ไม่มีสายมากมายทำให้ห้องดูรกรุงรัง และประหยัดค่าไฟฟ้า จากการใช้งาน
4โต๊ะทำงาน 2 ตัว ขนาด 1.80 เมตร ลึก 0.60 เมตร เพื่อไว้ว่าอาจจะมีคนมาทำงานมากกว่า 1 คน และมีพื้นที่ใช้งานพอสมควร
5.เก้าอี้ทำงาน 4 ตัว มีโซฟา 3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง 1 ชุด
6.ระบบ Lan ควรมี 3 port เพื่อว่าพนักงานจะได้สามารถเข้ามาต่อเชื่อมทำงานได้ทันที และถ้าหากองค์กรมี wireless network ก็สามารถทำงานได้ทันที
7.มีทีวี หนึ่งเครื่อง สามารถตั้งระบบปิดเปิดได้ เพื่อให้พนักงานใช้เป็นห้องพักผ่อนได้ด้วย
8.ติดตั้งระบบประตูที่ใช้การด์ล็อค และเชื่อมต่อกับระบบการเข้างานปกติ สามารถเช็คคนเข้าออกได้
9.ติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อให้ทราบว่าใครเข้ามาทำงานบ้าง โดยติดอยู่ด้านประตูทางเข้า ให้เห็นทั้งห้อง และสามารถเห็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ของผู้เข้ามาใช้ทำงาน เพื่อเตือนเรื่องการเข้าWeb ที่ไม่เหมาะสม และการทำงานที่เกี่ยวกับข้อมูลเฉพาะของบริษัท (หากมีระบบ Lanก็สามารถทราบได้ว่า มีการใช้คอมพิวเตอร์ โปรแกรม ต่าง ๆในเวลาใด) สำหรับ CCTV อาจไม่จำเป็นต้องมีก็ได้
10.ตู้น้ำร้อน น้ำเย็น 1 ตู้ พร้อมแก้วน้ำ 4 ใบ เพื่ออำนวยความสะดวกให้พนักงาน และ การติดตั้งปลั๊กไฟ เพื่อให้ตู้น้ำเย็นเสียใช้งาน ควรอยู่ระดับสายตา ที่ความสูง 1.50 เมตร และมีข้อความ ถอดปลั๊กทุกครั้งเมื่อเลิกใช้ เพื่อความปลอดภัย และประหยัดค่าไฟฟ้า




งบประมาณการลงทุน
1.ค่าปรับปรุงห้อง ทาสีใหม่ เดินระบบไฟฟ้า ระบบLan โทรศัพท์ 50,000 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
2.คอมพิวเตอร์ 2 ชุด 40,000บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
3.แอร์ 12,000 BTU 15,000 บาท ค่าติดตั้ง 5,000 บาท 20,000 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
4.โต๊ะทำงาน 1.80 x 0.60 เมตร 2 ตัว ราคา 1,800 บาท/ตัว 3,600 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
5.เก้าอี้ 4 ตัว ราคา 1,200 บาท / ตัว 4,800 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
6. TV 1 เครื่อง 7,000 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
7.ระบบประตูใช้การด์ 8,000 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
8.Sofa พร้อมโต๊ะกลาง 1 ชุด 3,500 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
9.ตู้น้ำร้อน น้ำเย็น พร้อมแก้วน้ำ 4 ใบ 5,300 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
10.โทรศัพท์ 1 เครื่อง 500 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)
รวมค่าใช้จ่าย 185,900 บาท (ค่าเสื่อม 5 ปี)

ค่าใช้จ่ายต่อเดือน จาก 10 รายการข้างต้น 3,098 บาท/เดือน
ค่าไฟฟ้าต่อเดือน ประมาณ 20 ชั่วโมง แอร์ 50 .
ส่องสว่าง 15 บาท คอม 10 บาท
ตู้ทำน้ำร้อน เย็น 14 บาท
ค่าไฟฟ้า ประมาณการ 89 บาท/เดือน
รวมค่าใช้จ่ายที่ลงทุน ต่อเดือน (ไม่รวมระบบ CCTV) 3,187 บาท /เดือน
ประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับ
1.งานที่ค้างจะได้รับการ ปรับปรุงให้แล้วเสร็จ ปริมาณงานที่ได้จะได้เพิ่มขึ้น
2.จากรายชื่อพนักงานที่มาทำงานในห้องนี้ จะสามารถทำให้ผู้บริหารทราบได้ว่า งานในฟังก์ชั่นใด มีมากจนพนักงานทำไม่ไหว เพื่อปรับแผนงานหรือกระบวนการทำงานให้เหมาะสม เช่น เพิ่มคน เพิ่มอุปกรณ์ที่จะทำให้ทำงานเร็วขึ้น หรือ ปรับปรุงขบวนการทำงานใหม่ ๆ
3.ห้องนี้สามารถใช้เป็น
-ในเวลาปกติ เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีที่นั่งประจำ สามารถเข้ามาทำงานได้
- จะใช้เป็นห้องรับรองแขกชั่วคราวได้
-ใช้เป็นห้องประชุมย่อยก็ได้
-ใช้เป็นห้องทานข้าวกลางวันพนักงาน พร้อม พักผ่อนดูข่าว ดูทีวี ในเวลาเช้า กลางวัน เย็น หรือข่าวสำคัญ
- ใช้เป็นห้องทำงาน เบื้องต้น สำหรับพนักงานที่มาทำงานแต่เช้า ก่อน แอร์ของอาคารจะทำงาน เพราะทำงานได้ทันที
- ใช้เป็นห้องสัมภาษณ์งาน ทดสอบการใช้คอมพิวเตอร์ ของพนักงานที่มาสมัครงานใหม่
4.ผลพลอยได้ จากคนที่เข้ามาใช้งานในห้องนี้ จะทำให้ทราบว่า พนักงานคนใดมีความรับผิดชอบต่องานสูง
หรือ พนักงานคนใดมีพฤติกรรมอย่างไร หากเป็นพนักงานที่ดี ็เป็นโอกาสที่จะได้ส่งเสริมให้ก้าวหน้า ส่วนคนที่มาใช้ห้องแล้ว ไม่เหมาะสมทั้งการทำงาน และพฤติกรรม ก็เป็นช่องทางที่จะเชิญพนักงานท่านนั้นออกจากบริษัทไป
5.โดยทั่วไปมักจะได้ข้ออ้างจากพนักงานว่างานมากทำไม่ค่อยทัน แต่เมื่อมีห้องนี้แล้ว พนักงานจะไม่มีข้ออ้าง เรื่องนี้เลย และประสิทธิภาพ และปริมาณของงานที่ได้จะมีมากขึ้นด้วย
6.พนักงานที่ชอบทำงาน ก็จะได้มีทีทำงาน ตอนเย็น วันเสาร์ - วันอาทิตย์ วันหยุด บริษัทก็จะได้งานเพิ่มขึ้น
หรือพนักงานที่ไม่มีคอมพิวเตอร์ที่บ้าน ก็สามารถมาทำงานในห้องนี้ได้
สิ่งที่ต้องคำนึงถึง
1.ถ้าทำได้ ห้องนี้ควรอยู่ด้านล่าง สามารถเข้าทำงานได้ง่าย โดยไม่ผ่านห้องอื่น
2.ถ้าทำได้ ห้องนี้ควรอยู่ใกล้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพื่อสามารถเข้า ตรวจสอบได้ง่าย และเพื่อความปลอดของพนักงานที่เข้ามาทำงาน
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์
หากต้องการความช่วยเหลือ หรือแนวคิดใหม่ ๆ ในการจัดการ บริหารองค์กร
ติดต่อ somchai48@gmail.com