วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

10 แนวคิดในการเลือกทำเล และการสร้างอาคาร ที่พัก ที่อยู่อาศัย

สมชัย เจริญวรเกียรติ กับ ฮวงจุ้ย ง่าย ๆ แก้ชีวิตให้ดีได้
somchai48@gmail.com 12 มิถุนายน 2549

10 แนวคิดในการเลือกทำเล และการสร้างอาคาร ที่พัก ที่อยู่อาศัย
1.การเลือกทำเลที่ข้างหน้าต่ำ ข้างหลังสูง จะเป็นทำเลที่ดีเป็นสิริมงคล ผู้ที่อยู่อาศัยจะเจริญสูงขึ้น ๆ ไป ในทางกลับกันหากที่ดินข้างหน้าสูงข้างหลังต่ำย่อมไม่เป็นมงคล ไม่สามารถมีทรัพย์ได้
เห็นด้วย : เหตุผลทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ และทางสังคมศาสตร์ พบว่าในกรณีที่เกิดน้ำท่วมหากน้ำค่อย ๆ ท่วมขึ้นมาจะสามารถขนของหนีออกทางด้านหลังได้ทัน และ มีเวลาเอาชีวิตรอดได้ ส่วน ฝุ่น ผงต่าง ๆ ที่อยู่ด้านหน้า เวลาปลิวก็จะลอยตัวอยู่แค่ต่ำ ๆ ไม่ขึ้นมาบนที่สูง ฝุ่น ผง ก็จะไม่เข้าบ้าน ทำให้ไม่เป็นภูมิแพ้ หรือโรคทางเดินหายใจ
สำหรับในปัจจุบันการมีบ้านอยู่ริมถนนควรให้พื้นของตัวบ้านสูงกว่าถนน เพื่อป้องกันเวลาฝนตก น้ำจากถนน ดิน โคลน จะได้ไม่ไหลเข้าบ้าน

2.การปลูกบ้านอยู่โดดๆ และ ปลูกให้สูงกว่าบ้านของผู้อื่น ไม่ดี จะทำให้เดือดร้อน คนที่อาศัยอยู่จะถูกทำร้าย มีเคราะห์
อาคารที่สูงจะเป็นส่วนที่ได้รับ แดด ลม ทั้งสี่ด้าน และมักจะเป็นส่วนที่ฟ้าจะผ่าลงมาก่อน ทำให้มีโอกาสเกิดอัคคีภัยได้ง่าย อีกทั้งการมีบ้านที่สูงจะทำให้เป็นเป้าสายตา คนสามารถลอบทำร้ายได้ง่าย ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัย ขาดความสมดุลย์ กระทบกระเทือนต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจ
ไม่ค่อยจะเห็นด้วย : เหตุผลทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ และทางสังคมศาสตร์ พบว่าปัจจุบันการพัฒนาการของเทคโนโลยี ได้ทำให้ปัญหาต่าง ๆ มีทางออก เช่น
- การกลัวฟ้าผ่า อาคารสูงทั่วไปปัจจุบันสามารถติดตั้งสายล่อฟ้า ป้องกันฟ้าผ่าได้
- การถูกความร้อนจากแดดทำให้อาคารร้อน ปัจจุบันพบว่าสามารถเลือกวัสดุที่กันความร้อนได้ เช่น
ฉนวนกันความร้อน ฟิลม์กันความร้อน ม่าน มูลี่กันความร้อน กระจกกันความร้อน
- การรู้สึกไม่เป็นส่วนตัว อาคารสูงปัจจุบัน สามารถหาวัสดุที่ปกป้องการมองเห็นจากภายนอกได้ดี เช่น
ม่าน มู่ลี่ หากต้องการความปลอดภัย ก็สามารถเลือก กระจกที่มีความทึบ ฟิลม์ที่มีความทึบ มีความแข็ง แรง
ดังนั้นหากต้องการสร้างบ้านที่มีความสูงก็สามารถทำได้ในปัจจุบัน เพียงแต่ต้องเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม กัน
ความร้อน และมีความแข็งแรง และดูทิศทางลม เพื่อกำหนดตำแหน่งของหน้าต่างให้สามารถรับลมที่เหมาะสมด้วย

3.ไม่ควรปลูกบ้าน หรือซ่อมแซมบ้านในขณะที่มีสมาชิกคนใด คนหนึ่งตั้งครรภ์ แม้นการซ่อมแซมเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะอาจทำให้แท้งได้
เห็นด้วย : เหตุผลทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ และทางสังคมศาสตร์ เพราะหากมีการก่อสร้าง หรือซ่อมแซมบ้าน จะมีกองเศษวัสดุ เครื่องมือ ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุจากการลื่นล้ม แก่ผู้ตั้งครรภ์ทำให้มีโอกาสแท้งได้ หรือ การก่อสร้าง ซ่อมแซม จะมีเสียงดัง มีฝุ่น ผง ซึ่งมีผลต่อสุขภาพจิตของผู้ตั้งครรภ์ เกิดความเครียดจนอาจแท้งได้
ดังนั้นหากมีโอกาสซ่อมแซมบ้านได้ควรซ่อมแซมทันที และซ่อมแซมให้เร็วที่สุด เพื่อลดอุบัติเหตุที่เกิดจากกองวัสดุ หรือระหว่างการก่อสร้าง


4.พื้นที่ดินที่อ่อนนุ่มไม่แน่น เป็นทำเลที่ไม่ดี หากทำธุรกิจก็จะมีแต่อับเฉา ขาดทุน หากอยู่อาศัยก็จะไม่เจริญ
เห็นด้วย : เหตุผลทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ และทางสังคมศาสตร์ การที่พื้นดินที่ใช้สร้างอาคารมีความอ่อนตัวก็จะทำให้ พื้นของอาคารแตกร้าว และทรุดตัวได้ง่าย มีโอกาสที่อาคารจะล้มพังลงมา และ จะต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อซ่อมแซมอาคาร และผู้อยู่อาศัยอาจจะได้รับอุบัติเหตุ จากการทรุดตัวของอาคาร
แต่หากว่าทำเลนั้นเหมาะแก่การทำธุรกิจจริงๆ การออกแบบทางสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ก็สามารถทำได้ โดยใช้เข็มที่ยาว และเหมาะสม หรือ ใช้แผ่นพื้นที่วางอยู่บนคาน ไม่วางแผ่นพื้นบนดิน ต้องลงทุนด้านการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น และต้องมีการปรับปรุงบริเวณที่มีการทรุดตัวอย่างสม่ำเสมอเพื่อเป็นการรักษาภูมิทัศน์ที่สวยงามไว้

5.ไม่ควรสร้างบ้านคร่อมส่วนที่เป็นบ่อน้ำร้าง เพราะจะอุปทานว่ามีผีมาหลอกให้กลัว
เห็นด้วย : เหตุผลทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ และทางสังคมศาสตร์ เพราะบ่อน้ำร้าง หรือบ่อน้ำเดิมจะมีความชื้นค่อนข้างสูง ทำให้บริเวณนั้นเต็มไปด้วยเชื้อรา และจุลินทรีย์ อาคารก็จะมีคราบที่เกิดจากเชื้อราที่ผนัง ซึ่งบางครั้งการจินตนาการว่ามีความคล้ายภูติผีปีศาจก็มีโอกาสเป้นไปได้ และตัวอาคารก็จะผุผัง กร่อนตัวได้ง่าย
หากว่าจำเป็นต้องสร้างอาคาร ก็ควรจะถมบ่อน้ำร้างนั้นให้เต็ม พลิกหน้าดินบริเวณนั้นให้โดนแดดจัด ๆ เพื่อฆ่าเชื้อโรค ทำการบดอัดดินให้แน่น และการสร้างบ้านหรืออาคารควร

6.การที่ฐานด้านหน้าบ้านกว้าง ด้านหลังแคบ ผู้ที่เป้นเจ้าของบ้านจะเก็บทรัพย์สินเงินทองไว้ไม่อยู่ แต่หากว่าฐานด้านหน้าบ้านแคบ ด้านหลังกว้างจะร่ำรวยด้วยทรัพย์สินเงินทอง
เห็นด้วย 50 – 50 : เหตุผลทางสังคมศาสตร์ ในสมัยก่อนประเทศจีน การรุกราน ปล้นฆ่า ยังมีอยู่ทั่วไป ดังนั้น จึงต้องสร้างบ้านให้รั้วสูง และทึบ และมีทางเข้าออกเพียงแคบ ๆ เพื่อป้องกันโจร และศัตรูที่จะบุกรุกเข้ามา แต่ในปัจจุบันพบว่า การที่สังคมมีการพัฒนา จนมีกฎหมายที่จะเอาผิดพวกโจร ขโมย ทำให้การจี้ปล้นลดลง ดังนั้น
เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ในสมัยก่อนการสร้างบ้านเรือนยังสร้างได้ไม่สูงนัก เมื่อเกิดกระแสลมพัดเข้ามาหากฐานด้านหน้ากว้างก็มีโอกาสถูกกระแสลมทำลายบ้าน อาคารได้ง่าย
บ้านที่มีด้านหน้าแคบ และด้านหลังกว้าง เป็นบ้านที่มีทรัพย์สินมาก ก็อาจจะไม่แน่เสมอไป
ร้านค้า สถานที่ทำธุรกิจ ควรจะมีด้านหน้ากว้าง เพื่อเป็นที่สังเกตุได้ง่าย และง่ายแก่การที่ลูกค้าจะเข้ามาใช้บริการ’
ปัจจุบันที่ดินจัดสรรเพื่อการสร้างบ้าน มักจะถูกแบ่งเป็นสีเหลี่ยมหน้าหลังกว้างเท่ากัน จึงไม่ค่อยมีผลต่อรูปแบบพื้นที่ดินมากนัก แต่สำหรับการทำธุรกิจ ต้องเลือกทำเลที่ดี และมีขนาดที่ดินที่ด้านหน้ากว้างเพื่อความสะดวกในการต้อนรับลูกค้า

7. หน้าบ้านไม่ควรมีกองหินก้อนใหญ่มาขวางไว้ จะส่งผลให้ผู้ที่อาศัยอยู่ เจ็บไข้ได้ป่วย หรือ ได้รับอุบัติเหตุ
เห็นด้วย : เหตุผลทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ และทางสังคมศาสตร์ การมีก้อนหินอยู่หน้าบ้านมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุ เพราะ ปัจจุบัน การเดินทางส่วนใหญ่เดินทางด้วยรถยนต์ และหากว่ามีกองหินหน้าบ้านก็มีโอกสษที่รถยนต์จะไปชนกองหินได้ โดยเฉพาะเวลาที่มีแสงน้อย เช่น ตินเช้ามืด ตอนเย็น หรือกลางคืน อีกทั้งกองหินจะมีฝุ่นที่ตกค้าง หากอับชื้นก็เป็นที่อาศัยของเชื้อรา และเป็นที่อยู่ของสัตว์ที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้ เช่น งู แมงมุม ตะขาบ
หากทำได้ควรย้ายกองหินนั้นออกไป หากทำไม่ได้ ควรใส่สัญลักษณ์เตือนอันตรายให้เห็นชัด ๆ แต่ไกลหรือเพิ่มความสว่างให้กองหิน ในเวลากลางคืน เพื่อลดบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้

8.ถ้าสามารถมองเห็นเสาหลักของบ้าน จากภายนอกอย่างชัดเจน อาจจะมีลูกอกตัญญูเกิดขึ้นในครอบครัว สมควรจะปกปิดหรือหลีกเลี่ยง
เห็นด้วย : เหตุผลทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ และทางสังคมศาสตร์ เสาหลักในทางสถาปัตยกรรม ถือว่าเป็นจุดที่รับน้ำหนักของอาคาร หากถูกทำลายหรือทำให้เสียสมดุลย์ จะทำให้อาคารทั้งหลังพังทลายลงมาอย่างง่ายดาย จึงต้องปิดบัง หรือ ทำสิ่งปกคลุม ซึ่งในสมัยก่อนการทำลายอาคาร หรือพระราขวังวัง จะมุ่งทำลายที่เสาหลักโดยเน้นการการเผา หรือ ระเบิด เสาหลักเป็นสำคัญ
หากไม่สามารถปิดบังเสาหลักของอาคารได้ควรสร้างสิ่งที่ทำให้ไม่เห็นว่าเป็นเสาหลัก เช่นเป็นส่วนหนึ่งของผนัง หรือสร้างห้องเพื่อปิดบังเสาหลักไว้ หรือทำฉากกั้นก็ได้ แต่ต้องให้แข็งแรงพอควร

9.รั้วบ้านที่มีรอยแตกร้าว หรือชำรุด หรือมีต้นไม้พันจนรกรุงรังจะนำภัยร้ายมาให้ อาจต้องขึ้นโรงขึ้นศาล โดยเฉพาะทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
เห็นด้วย : เหตุผลทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ และทางสังคมศาสตร์ แน่นอนว่ากำแพงที่แตกชำรุดหรือมีรอยร้าวย่อมมีโอกาสพังทลายลงมาได้ง่าย ๆ และเมื่อพังทลายลงมาก็มีโอกาสทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รับบาดเจ็บ หรือถ้าเกิดตกลงไปนอกบริเวณทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายก็อาจจะต้องมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลได้ และสำหรับทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นทิศที่มีกระแสลมพัดผ่าน ซึ่งง่ายต่อการเกิดอุบัติเหตุจากกระแสลมที่พัดแรง
การซ่อมแซมรั้วเป็นเรื่องที่จำเป็น และสำคัญเพราะเป็นเรื่องที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ที่อยู่อาศัยในบ้าน จากการถูกลักขโมย และยังเป็น การป้องกันภัยที่อาจเกิดภัยธรรมชาติ จาก ลมที่พัดแรงได้อีกด้วย

10.ถ้าหน้าบ้านมีโรงพยาบาล วัด สุสาน ตั้งอยู่คนที่อยู่ในบ้านไม่สงบสุข การทำธุรกิจจะไม่ดี ลูกหลานจะไม่สามารถรักษาธุรกิจต่อไปได้
เห็นด้วย 50 – 50 : เหตุผลทางวิทยศาสตร์ เมื่อสมัยก่อนการแพทย์ยังไม่ค่อยเจริญมากนัก อีกทั้งยังมีโรคระบาดเสมอ ๆ โรงพยาบาล วัด สุสาน จึงเป็นแหล่งที่มีสามารถติดเชื้อโรคได้ง่าย หากมีบ้านช่อง อยู่ใกล้โรงพยาบาล วัด สุสาน ก็มีโอกาสติดโรค และเสียชีวิตได้ง่ายด้วย
เหตุผลทางสังคมศาสตร์ สถานที่โรงพยาบาล วัด สุสาน จะเป็นที่ที่มีคนตายอยู่เสมอ และศพต่าง ๆ ที่ตายไม่ว่าจากโรคระบาด หรือสงคราม ก็จะถูกนำมาทิ้งรวมกันที่วัด เพื่อทำการฝัง หรือเผา อีกทั้งการเผาศพในอดีต มีการเผาอย่างโล่งโจ้ง และใช้ระยะเวลานาน การได้เห็นคนตาย การเผาศพก็จะทำให้รู้สึก ซึมเศร้า ส่งผลให้สภาพจิตใจไม่ดี และส่งผลให้สุขภาพกายไม่ดีไปด้วย
แต่ในปัจจุบันการแพทย์ ก้าวหน้าไปมากการระบาดของโรคจึงมีน้อยลง และการเผาศพในปัจจุบันก็มิดชิดขึ้น รวดเร็วขึ้น การมีที่หน้าบ้านตรงกับโรงพยาบาล วัด สุสาน จึงไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอีกต่อไป แต่ถ้าทำได้ไม่ควรอยู่อาศัย แต่ใช้เป็นสถานที่ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาล วัด สุสาน จะดีกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงจากโรคต่าง ๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้

ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ
การให้ความรู้เป็นบารมีที่มีค่ามาก
สมชัย เจริญวรเกียรติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น